วันศุกร์ที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2559

Conjunction

Conjunction (คำสันธาน)
   Conjunction คือ คำหรือวลีที่ใช้ทำหน้าที่เชื่อมความ หน้าที่หลักของคำประเภทนี้คือการเชื่อมโยง (link) ทั้งสองส่วนเข้าด้วยกัน

Conjunction แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม
1. Coordinating Conjunction
   คือ คำสันธานที่ใช้เชื่อมคำหรือประโยคสองอันเข้าด้วยกัน โดยสองข้อความที่ถูกเชื่อมนั้นจะต้องมีน้ำหนักหรือความสำคัญเท่ากัน เช่น and, yet, but, for, so, nor, neither, or

and (และ) ใช้เชื่อมประโยคที่เป็นไปในทางเดียวกัน เช่น
   I love you and you love me too.
   ฉันรักเธอ และ เธอก็รักฉัน
   He turned out the light and went to bed.
   เขาดับไฟ และ เข้านอน

yet และ but (แต่) ใช้เชื่อมประโยคที่ขัดแย้งกัน เช่น 
   Kelly was a convicted criminal, yet many people admired him.
   เคลลี่ถูกตัดสินว่าเป็นอาชญากร แต่ หลายคนชื่นชมเขา
   My brother worked hard but he did not succeed.
   พี่ชายของฉันทำงานหนัก แต่ เขาก็ยังไม่ประสบความสำเร็จ

for (เพราะ) ใช้เชื่อมประโยคที่เป็นเหตุเป็นผลกัน (โดย for จะแสดงเหตุ) เช่น 
   He went in, for the door was open.
   เขาเข้าไป เพราะ ประตูเปิดอยู่ (สังเกต for จะนำหน้าประโยคที่เป็นเหตุ)

so (ดังนั้น) ใช้เชื่อมประโยคที่เป็นเหตุเป็นผลกัน (โดย so จะแสดงผล) เช่น 
   The door was open so he went in.
   ประตูเปิดอยู่ ดังนั้น เข้าจึงเข้าไป (โดย so จะนำหน้าประโยคที่เป็นผล)

nor (ไม่) และ neither (ไม่ทั้งสองอย่าง) ใช้เชื่อมประโยคที่เป็นไปในเชิงปฏิเสธทั้งคู่ เช่น 
   He nor I was there.
   เขาและฉันไม่ได้อยู่ที่นี่
   We’ve got two TVs, but neither works properly.
   เรามีทีวีสองเครื่องแต่ใช้งานไม่ได้ทั้งสอง

or (หรือ) ใช้เชื่อมประโยคที่แสดงทางเลือก เช่น 
   She wants to watch TV or listen to some music.
   เธอไปดูทีวี หรือ ไปฟังเพลง
   This hair cream may be used by men or women.
   ครีมทาผมนี้อาจจะใช้ได้ทั้งชาย หรือ หญิง

2. Subordinating Conjunction
   คือ คำสันธานที่ใช้เชื่อมประโยคใจความรองเข้ากับประโยคใจความหลัก เช่น after, because, if, although, before, since, that, unless, until, when, as soon as

after (หลังจาก) เช่น 
   The girl cried after the boy left.
   เด็กหญิงร้องไห้ หลังจาก เด็กชายจากไป
   She slept after you have left her home.
   เธอนอนหลับ หลังจาก คุณออกจากบ้านของเธอ

because (เพราะว่า) เช่น 
    The boy was absent because he was ill.
    เด็กชายขาดเรียน เพราะว่า เขาป่วย
    He didn’t go to school because he was sick.
    เขาไม่ไปโรงเรียน เพราะว่า เขาป่วย

if (ถ้าหาก) เช่น 
   Stay indoors if it rains.
   อยู่ในร่ม ถ้าหาก ฝนตก
   If I were you. I would go to see the doctor.
   ถ้าผมเป็นคุณ ผมจะไปหาหมอ

although (ถึงแม้ว่า) เช่น 
   Although it was cold, I went swimming.
   ถึงแม้ว่า จะหนาวแต่ฉันก็จะไปว่ายน้ำ

before (ก่อน) เช่น 
   Clean the room before I go. ทำความสะอาดห้อง ก่อน ที่ฉันจะไป
   Can I see you before noon? ผมขอพบคุณ ก่อน เที่ยงวันได้ไหม

since (ตั้งแต่) เช่น 
   He has been busy since he came.
   เขายุ่ง ตั้งแต่ เขามา
   I have lived here since 1995.
   ผมได้อาศัยอยู่ที่นี่มา ตั้งแต่ ปี 1995

that (เพราะนั่น) เช่น 
   Hold it up so that everyone can see it.
   ชูมันขึ้น เพราะนั่น จะทำให้ทุกคนมองเห็นมัน

unless (เว้นแต่) เช่น 
   I’ll be there at nine, unless the train is late.
   ฉันจะอยู่ที่นั้นตอนเก้าโมง เว้นแต่ รถไฟจะมาสาย
   You will miss the show unless you hurry.
   คุณจะพลาดการแสดง เว้นแต่ คุณรีบ

until (จนกระทั่ง) เช่น 
   They did not come until the meeting was half over.
   พวกเค้าไม่มา จนกระทั่ง การประชุมผ่านไปเกินกว่าครึ่ง
   You will get free education until you are 16.
   คุณจะได้รับการศึกษาฟรี จนกว่า คุณจะอายุ 16 ปี

when (ในขณะที่) เช่น 
   He is impatient when he is kept waiting.
   เขาจะหงุดหงิด ในขณะที่ เขาต้องรอ

as soon as (ทันทีที่) เช่น 
   I’ll leave for the funeral as soon as the meeting ends.
   ฉันจะออกจากที่นี่เพื่อไปงานศพ ทันทีที่ ประชุมเสร็จ

3. Correlative Conjunction
   คือ คำสันธานที่ต้องใช้คู่กันเสมอ(มาคู่กันเหมือนแฝด) โดยจะทำหน้าที่คล้ายๆกับ Coordinating Conjunction คือเชื่อมประโยคที่มีความสำคัญเท่ากัน เช่น not only…..but also, either…..or,  as…..as,  so as to,  both…..and

not only…..but also (ไม่เท่านั้นแต่อีกด้วย) เช่น 
   Man needs not only food but also shelter.
   มนุษย์ไม่เพียงแต่ต้องการอาหารเท่านั้นยังต้องการที่พักอาศัยอีกด้วย
   Sue is not only a good dancer but also an accomplished singer.
   ซูไม่ได้เป็นเพียงนักเต้นที่ดี แต่ยังเป็นนักร้องที่ประสบความสำเร็จ

either…..or (ไม่….หรือ/ก็) เช่น 
   You can either sleep or eat. คุณไม่ นอนหลับก็ กิน

as…..as (เป็นการใช้เชื่อมประโยคที่แสดงอะไรที่เท่ากัน) เช่น 
   She runs as fast as I do.
   เธอวิ่งเร็วเท่าฉัน (นำคำที่เราต้องการเปรียบเทียบใส่ไปในระหว่าง as กับ as จากตัวอย่างใส่คำว่า fast เป็นการเปรียบเทียบความเร็ว)

so as to (เพื่อที่จะ) เช่น 
   I study hard so as to pass the exam.
   ฉันเรียนหนัก เพื่อที่จะ ได้สอบผ่าน (to ตามด้วยกริยาช่องที่ 1
ไม่เติม s)

both … and (ทั้งและ) เช่น 
   I enjoy both singing and dancing.
   ฉันมีความสุขทั้งการร้องเพลงและการเต้น
   That novel is both good and cheap.
   นวนิยายทั้งดีและราคาถูก

Conjunctive Adverbs
   นอกจากนี้ยังมีคําเชื่อมประโยคอีกกลุมหนึ่งที่เรียกวา Conjunctive Adverbs ทําหนาที่เชื่อมในลักษณะเดียวกับ Coordinating Conjunctions โดย Conjunctive Adverbs นี้ จะมีเครื่องหมาย ; นําหนา ตามดวยเครื่องหมาย , หรืออาจใชขึ้นตนประโยคแลวใช เครื่องหมาย , ตามก็ได

แหล่งที่มา :
   http://www.engbitbybit.com/2015/02/conjunction.html
   http://www.dailyenglish.in.th/conjunction/
   http://e-book.ram.edu/e-book/t/TE500(51)/TE500-7.pdf

ผู้จัดทำ :
   นางสาวสุกัญญา เล็กจินดา
   รหัสนักศึกษา 2561051641122
   สาขา เทคโนโลยีสารสนเทศทางธุรกิจ - การพัฒนาซอฟต์แวร์














ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น